Skip to content

เป็นคำถามที่ดีมากเพราะเชื่อว่ามีคนอยากใช้ Photoshop อยู่เยอะมาก แต่ก็มีอยู่ไม่น้อยที่ไม่อยากเสียค่าสมาชิกรายเดือน ทางออกของแต่ละคนก็ต่างกันไป บ้างก็ไปหาตัว Crack บ้างก็ไปหาตัวทดลองใช้ บางคนก็ไปหาโหลดเวอร์ชั่นนักเรียนนักศึกษาเป็นต้น แต่เชื่อไหมครับว่ามีโปรแกรมดีๆ ที่นำมาใช้แทน Photoshop ได้เช่นกัน ถ้าคุณยอมเปิดใจนะครับ

Photoshop ครองใจคนทุกระดับ

แน่นอนว่าบรรดานักออกแบบทุกคงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก Photoshop นะครับ ใครที่เคยใช้ Photoshop มาก่อนและใช้มายาวนานย่อมยากที่เปลี่ยนใจไปใช้โปรแกรมอื่น เหมือนกับคนรักแล้วรักเลยก็ไม่ปาน ส่วนใหญ่ก็เพราะความถนัดและคุ้นเคยกับโปรแกรม ยิ่งพวกมือเก๋าๆ บางคนใช้กันมาตั้งแต่โปรแกรมเถื่อนเพราะสมัยก่อนราว 20 ปีที่แล้ว โปรแกรมลิขสิทธิ์ขายกันแพงมาก แค่ Photoshop ตัวเดียวล่อกันไปหลายหมื่นบาท ยิ่งที่ขายแบบชุด Suite ก็จ่ายกันเวอร์ชั่นละไม่ต่ำกว่าครึ่งแสน จนมาสู่ยุคจ่ายรายเดือน ก็เริ่มจะจ่ายกันพอได้หน่อย อย่าง Photoshop ราคาสมาชิกตอนนี้เริ่มต้นตกเดือนละ 380 บาท ได้ใช้ 2 โปรแกรมคือ Photoshop และ LightRoom แต่อย่าลืมว่าเราก็ต้องเสียค่าสมาชิกในแต่ละเดือนเช่นกันนะครับ

ถ้าเป็นชุดใหญ่ไฟกระพริบได้ทุกโปรแกรมไปใช้งาน ปีแรกตกเดือนละ 1,143 บาท หลังจากนั้นโดนเดือนละ 2,211 บาท ปีแรกตกปีละ 13,xxx บาท หลังจากนั้นปีละ 26,xxx บาทครับ

ซึ่งถ้าใครจำเป็นต้องใช้และไม่อยากใช้ของเถื่อนก็ควรสมัครสมาชิกครับ เพราะฟีเจอร์การใช้งานในเวอร์ชั่นใหม่ๆ เรียกว่าจัดเต็มเอามากๆ ปลอดภัยในการใช้งาน และใช้งานได้อย่างสบายใจไม่ต้องกลัวใครมาตรวจลิขสิทธิ์ ส่วนใครที่ไม่อยากจ่ายก็ต้องหาทางออกครับ ในบทความนี้เราจะมาแนะนำโปรแกรมที่สามารถใช้งานแทน Photoshop ได้ โดยไม่ต้องมาจ่ายรายเดือน

ทำความรู้จัก Affinity Photo

Affinity Photo เป็นโปรแกรมแก้ไขภาพที่มีประสิทธิภาพสูง พัฒนาโดย Serif Labs จากประเทศอังกฤษ โปรแกรมนี้ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับ Adobe Photoshop ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย ราคาที่ย่อมเยาและประสิทธิภาพการทำงานที่ราบรื่น Affinity Photo จึงกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับนักออกแบบช่างภาพและผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการหาโปรแกรมมาแทน Photoshop ครับ

Affinity Photo เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 ทีมพัฒนาจาก Serif ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 25 ปี ในการพัฒนาโปรแกรมสำหรับนักออกแบบ โปรแกรมที่โด่งดังของ Serif ในสมัยนั้นคือ PagePlus โปรแกรมจัดหน้ากระดาษที่ได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อยเลยครับ

จุดเด่นของ Affinity Photo

คุณสมบัติครบครัน

Affinity Photo มีเครื่องมือและฟีเจอร์มากมาย อาจจะไม่เทียบเท่ากับ Adobe Photoshop (โดยเฉพาะเรื่อง AI) แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานในระดับมืออาชีพครับ รองรับการทำงานกับภาพ RAW การแก้ไขภาพ การวาดภาพ การจัดการเลเยอร์ ฟิลเตอร์ เอฟเฟกต์ และอื่นๆ อีกมากมาย

ราคาประหยัด

Affinity Photo มีราคาถูกกว่า Adobe Photoshop มาก ผู้ใช้งานสามารถซื้อโปรแกรมแบบถาวรโดยไม่ต้องเสียค่าสมาชิก เราจะเสียค่าโปรแกรมใหม่ก็ต่อเมื่อทาง Affinity อัพเกรดระดับเมเจอร์เวอร์ชัน เช่นจาก เวอร์ชัน 2 ไปเวอร์ชั่น 3 แบบนี้ครับ แต่เขาไม่ได้บังคับซื้อนะครับ ถ้าไม่ซื้อเรายังสามารถใช้เวอร์ชั่นเก่าต่อไปได้ ถ้ามีการอัพเดตจาก 2.0 ไป 2.1 ไป 2.2 ไป 2.3 แบบนี้อัพเดตได้ฟรีไปเรื่อยๆ

ประสิทธิภาพการทำงาน

Affinity Photo ทำงานได้รวดเร็ว ลื่นไหล รองรับการทำงานบนระบบปฏิบัติการ Mac Windows และ iPad (ยังไม่รองรับระดับ Android)

ราคา

มาถึงราคาของโปรแกรม Affinity Photo เรียกว่าราคาเบามากๆ ครับ

วอร์ชั่น Mac และ Windows ราคาปกติ 69.99 USD ต่อแพลทฟอร์ม

เวอร์ชั่น Mac และ Windows ต้องซื้อแยก License (ประมาณ 2,5xx บาท) ถ้าซื้อช่วงโปรโมชั่นจะคุ้มมากๆ อย่างในภาพลดเหลือ 48.99 USD หรือประมาณ 1,8xx บาทเท่านั้น

สำหรับ iPad ราคาปกติ 18.49 USD (ประมาณ 700 บาท)

(ยังไม่รองรับระดับ Android)

ถ้าซื้อ License แบบ Universal ราคาปกติ 164.99 USD (ประมาณ 5,9xx บาท) สามารถดาวโหลดทุกโปรแกรมของ Affinity คือ Affinity Photo, Affinity Designer และ Affinity Publisher และใช้งานได้ทั้ง Mac, Windows และ iPad ครบถ้วน

หมายเหตุ :

Affinity Photo เปรียบเสมือน Photoshop

Affinity Designer เปรียบเสมือน Illustrator

Affinity Publisher เปรียบเสมือน InDesign

เท่าที่ตามข่าวทาง Affinity ขณะนี้ยังไม่มีแพลนออกโปรแกรมสายตัดต่อวีดีโอครับ

สรุป

Affinity Photo เป็นโปรแกรมแก้ไขภาพที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้งานง่าย ราคาประหยัด และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โปรแกรมนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักออกแบบ, ช่างภาพและผู้ใช้งานทั่วไป นอกจากนี้ Affinity Photo ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่และแก้ไขข้อบกพร่องอยู่เป็นประจำ ซึ่งหากคุณย้ายค่ายจาก Photoshop มา ช่วงแรกๆ อาจจะยังไม่คุ้นกับคำสั่ง ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา หากใช้งานไปสัก 2-3 เดือนแบบติดต่อกัน รับรองว่าจะติดใจครับ

รายละเอียดเพิ่มเติม

Back To Top
Search