Yoast SEO และ Rank Math ต่างเป็นปลั๊กอินช่วยทำ SEO ในระบบ WordPress มีเวอร์ชั่นฟรีทั้งคู่ และเป็นปลั๊กอินยอดนิยมระดับท็อปด้วยกันทั้งคู่อีกเช่นกัน เราจะมาดูว่าแต่ละตัวจะมีอะไรที่น่าสนใจ เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกใช้ปลั๊กอินสำหรับ SEO ครับ
ทำความรู้จัก Yoast SEO
Yoast SEO เป็นปลั๊กอินยอดนิยมที่ช่วยให้คุณปรับแต่งเว็บไซต์สำหรับ Search Engine Optimization (SEO) ได้อย่างง่ายดาย ปลั๊กอินนี้มีเครื่องมือมากมายที่ช่วยเพิ่มอันดับเว็บไซต์ของคุณในผลการค้นหา มียอดติดตั้งกว่า 5 ล้านครั้ง ได้ผลโหวตระดับ 5 ดาว ใช้ได้ทั้งมือใหม่และผู้เชี่ยวชาญ
ทำไมต้องทำ Yoast SEO
– เครื่องมือ SEO อันทรงพลัง
– บอกลาความซับซ้อนของปลั๊กอิน SEO เพราะ Yoast SEO สามารถจัดการด้านเทคนิค เช่น canonical URL และ meta tags ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพที่จำเป็นโดยอัตโนมัติอยู่เบื้องหลัง ทำให้เราสามารถโฟกัสไปกับการสร้างเนื้อหาในเว็บของเราได้เต็มที่
– ใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น Sitemap XML, Title และ Meta description ช่วยให้เว็บของเราไต่อันดับไปถึงอันดับต้นๆ ของผลการค้นหาได้
– นำเสนอเครื่องมือวิเคราะห์ที่ครอบคลุมที่ช่วยยกระดับ SEO ของเนื้อหาและความสามารถในการอ่าน รับข้อมูลเชิงลึกที่มีประสิทธิภาพและคำแนะนำที่สามารถนำไปใช้ได้จริงเพื่อสร้างเนื้อหาพิเศษที่โดนใจผู้อ่านและเครื่องมือค้นหา
– Setup ง่าย แบบ Step by step
ทำความรู้จัก Rank Math
Rank Math เป็นปลั๊กอิน SEO ที่มาทีหลัง Yoast SEO แต่กลับมาแรงแซงทางโค้งได้รับความนิยมสูงมาก มียอดติดตั้งไปแล้วกว่า 2 ล้านครั้ง มีฟีเจอร์ชาญฉลาดมากมายนำความสามารถ SEO ระดับสูงมาไว้ในมือ ฟีเจอร์ระบบอัตโนมัติอัจฉริยะมอบพลังให้กับทีม SEO ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง การออกแบบที่คิดค้นมาอย่างดี คุณสมบัติอันทรงพลัง และการพัฒนามาหลายปีทำให้ Rank Math เป็นปลั๊กอิน SEO ที่เปลี่ยนแปลงเกม ซึ่งจะยกระดับสนามแข่งขัน SEO ตามที่คุณต้องการเพื่อช่วยเพิ่มปริมาณการเข้าชมเว็บของเรา
ทำไมต้อง Rank Math
– Setup ง่ายมาก สามารถตั้งค่าแบบ Step by Step
– มีความเข้ากันกับ Google Schema Markup, aka Rich Snippets
– Optimize คีย์เวิร์ดแบบไม่จำกัด
– Content AI มี AI ช่วยทำคอนเทนท์
– น้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับปลั๊กอิน SEO ค่ายอื่น
ฟีเจอร์เวอร์ชั่นฟรี
เราจะมาเทียบกันระหว่าง Rank Math เวอร์ชั่นฟรีและ Yoast SEO เวอร์ชั่นฟรีให้อะไรกับเราบ้าง
Rank Math
– กำหนด SEO titles และคำอธิบาย meta ได้
– กำหนดคำอธิบาย Social media
– กำหนด Focus keyword สามารถกำหนดได้หลายคำ
– มี XML Sitemap
– สามารถตั้งค่า schema markup ได้
– Search Console สามารถเชื่อมต่อเว็บเรากับ Google Search Console เพื่อที่จะ Submit sitemap แบบอัตโนมัติ
– Image SEO ช่วยกำหนดค่า alt และ Title tags ให้รูปภาพได้
– เพิ่ม Breadcrumbs ให้เว็บเรา
– มีตัวนับจำนวน Links ทั้งแบบ Internal และ External
– สามารถ Redirect แบบ 301 และ302
– ช่วยมอนิเตอร์หน้า 404 และ Redirect ไปหน้าอื่น
– มีคำแนะนำสำหรับ Internal Link ว่าจะให้ลิ้งค์ไปหน้าไหนภายในเว็บเราเองขณะที่เรากำลังทำงานกับ Editor
– สามารถเพิ่มโค้ดสำหรับ Google Analytic
– สามารถตั้งค่า SEO เบื้องต้นสำหรับหน้าสินค้า Woocommerce
Yoast SEO
– กำหนด SEO titles และคำอธิบาย meta ได้
– กำหนด Focus keyword ได้เพียงคำเดียว
– มี XML Sitemap
– สามารถเพิ่ม sitewide schema markup
– สามารถกำหนด Schema type ของแต่ละเนื้อหา
– สามารถกำหนดคำอธิบายของสื่อ Social Media ทั้งข้อความและภาพใน Facebook และ Twitter
– กำหนด SEO สำหรับ Woocommerce เบื้องต้นได้ เช่น Title, Description
– เพิ่ม Breadcrumbs ให้เว็บเรา
– มีตัวนับจำนวน Links แบบ Internal ในเนื้อหาภายในเว็บ
Interface การใช้งาน
มาดูของ Yoast SEO กันก่อนนะครับ กดเข้าไปที่เมนู Page เลือกหน้าที่เราต้องการกำหนดค่า SEO จะเจอ Interface ประมาณนี้ เราสามารถกำหนด Focus keyphrases คำที่อยากให้โฟกัส เวอร์ชั่นฟรีใส่ได้ 1 คำ
SEO Title กำหนดชื่อเรื่องตามต้องการ, กำหนด Meta description, กำหนดได้ว่าจะให้ Serach Engine สามารถติดตามเนื้อหาหน้านี้ได้หรือไม่, ตั้งค่า Meta robots, กำหนด Breadcrumbs Title ของหน้านั้นๆ ได้, กำหนด Canonical URL ได้
สามารถกำหนด Schema
ตั้งค่า SEO สำหรับ Social media เบื้องต้นได้
Interface ของ Rank Math
ก็จะคล้ายๆ ของ Yoast SEO อยู่บ้าง สามารถใส่ Focus Keyword ได้หลายคำ และมีคำแนะนำให้เราแก้ไข SEO เพื่อให้ได้คะแนนที่ดีขึ้น
กำหนดค่า Robots Meta รวมถึง Canonical URL ได้
กำหนด Schema รวมถึงตั้งค่า SEO สำหรับ Facebook และ Twitter ได้ด้วย
การวิเคราะห์ Keyword
Rank math สามารถใส่คำวิเคราะห์ได้ 5 คำ ในเวอร์ชั่นฟรี ซึ่งถ้าเป็นสีเขียวแปลว่าดีมาก สีแดงแปลว่าแย่มากซึ่งเราต้องปรับแก้ตามคำแนะนำที่ปลั๊กอินแจ้งไว้
Yoast SEO เวอร์ชั่นฟรีใส่ได้เพียงคำเดียว แต่จะมีแยกหมวด Readability ไว้อีกแทบโดยเป็นการวิเคราะห์ความสามารถในการอ่านเป็นคะแนนซึ่งให้คะแนนแบบเดียวกันเช่น เราสามารถเปลี่ยนจากสีแดงให้เป็นสีเขียวเพียงแค่เปลี่ยนตัวอักษรตัวเดียวในเนื้อหา
ราคา
สำหรับบทความนี้เราเน้นไปที่เวอร์ชั่นฟรีนะครับ แต่ถ้าเวอร์ชั่นแบบมีค่าใช้จ่ายเราได้นำมาเปรียบเทียบให้ด้วยครับ
Yoast SEO ราคาเริ่มต้น 99 USD/ปี จำนวน 1 เว็บ
Rank Math ราคาเริ่มต้น 94.80 USD/ปี ไม่จำกัดจำนวนเว็บส่วนบุคคล
ราคา 322.80 USD/ปี จำนวน 200 เว็บ สำหรับเว็บลูกค้า
สรุป
Rank Math และ Yoast SEO ทั้งคู่เป็นปลั๊กอิน SEO ที่มีคุณภาพ โดยรวมแล้ว Rank Math ให้ฟีเจอร์ค่อนข้างดีในเวอร์ชันฟรี เช่น ได้รับการวิเคราะห์ Keyword หลายคำ มีการตรวจจับหน้า 404 เครื่องมือจัดการ Redirect, ฟีเจอร์สำหรับการทำ SEO แบบ Local, คำแนะนำลิงก์แบบ Internal ซึ่ง Yoast SEO เวอร์ชั่นฟรีไม่ได้มีให้
แต่ Yoast SEO ฟรีก็มีผู้ใช้ที่มากกว่า Rank Math เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ลองใช้แล้วเทียบดูนะครับ ว่าชอบตัวไหนเราก็ใช้ตัวนั้นไป ถ้าหากว่าฟีเจอร์ในเวอร์ชั่นฟรีไม่เพียงพอ เราค่อยขยับไปเวอร์ชั่น Pro กันครับ
Related Posts
