ธีมของเว็บไซต์เปรียบเสมือนหน้าตาของบ้านหลังหนึ่ง เราสามารถเป็นดีไซเนอร์ให้กับเว็บไซต์ของตัวเองได้ เพียงแค่หาธีมที่เหมาะกับจุดประสงค์ในการสร้างเว็บ โดยที่การเลือกธีมที่เหมาะสมจะช่วยให้เว็บไซต์ดูดีและมีความน่าสนใจ เหมือนกับการจัดแต่งภายในบ้านที่สวยงาม วันนี้เราจึงมีคำแนะนำเล็กๆน้อยๆ ในการเลือกธีม WordPress มาให้อ่านกัน
โลกแห่ง WordPress นั้นมีธีมจำนวนมากให้เลือกสรรค์ มีการปรับแต่งแบบหลากหลายเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สร้างเว็บไซต์ที่ไม่เหมือนใครคุณสามารถสร้างระบบออนไลน์ที่แข็งแกร่งด้วยธีมของ WordPress เม่ว่าจะเป็นการขายสินค้า การแบ่งปันความรู้ออนไลน์ หรือสื่อการสอนต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้คุณสามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้รับรู้ผ่านหน้าเว็บ WordPress ได้ นี่คือตัวอย่างที่อธิบายว่าทำไมเราต้องเลือกใช้ธีม WordPress ที่เหมาะสมกับจุดประสงค์ของเรา
ข้อดีของธีม WordPress บางส่วน
- ราคาไม่แพงเท่ากับธีมที่จ้างทำ
- ง่ายต่อการติดตั้งและใช้งาน
- สามารถใช้งานได้บนโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ทุกยี่ห้อ
- เข้ากันได้กับปลั๊กอินของ WordPress ที่นิยมในปัจจุบัน
- สามารถปรับแต่งโดยไม่ต้องเขียนโค้ด
- มีการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ
- มีปลั๊กอินจำนวนมากที่สามารถเลือกใช้ได้
วิธีการเลือกธีม WordPress ตามข้อกำหนดที่ต้องการ
ก่อนที่คุณจะเลือกธีมสำหรับเว็บไซต์ของคุณ คุณตอบคำถามให้ได้ซัก 2-3 ข้อก่อน คือ วัตถุประสงค์ในระยะยาวของเว็บไซต์ของคุณคืออะไร คุณจะทำงานในสายงานใด คุณมีงบเท่าไหร่สำหรับซื้อธีม
เข้าใจจุดประสงค์ของการสร้างเว็บ
ใช้เวลาให้ตัวคุณให้เข้าใจว่าคุณต้องการอะไรจากเว็บไซต์ของคุณและธีมที่จะช่วยคุณให้บรรลุเป้าหมายของคุณได้อย่างไร การตัดสินใจเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดจะง่ายขึ้นเมื่อคุณทราบความคาดหวังจากภายในของเรา
การระบุ Niche ให้กับเว็บไซต์
คิดถึงประเภทของเว็บไซต์ก่อนที่จะเลือกรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น เราอยากจะสร้างเว็บไซต์พอร์ตโฟลิโอแน่นอนไม่ควรเลือกธีมเว็บไซต์ข่าวมาแสดงในเว็บ ดังนั้นคุณต้องแน่ใจเรื่องนิช เลือกรูปแบบที่สอดคล้องกับความต้องการโดยการกำหนดหมวดหมู่เว็บก่อน
ลิส์ฟีเจอร์หลักๆ ที่เราต้องใช้ในเว็บ
ระบุคุณสมบัติที่คุณต้องการ ตัวอย่างเช่น คุณอาจต้องการแสดงภาพสไลด์เดอร์หรือใช้ข้อความแบบไดนามิกในส่วนหัวของเว็บไซต์ของคุณ เราก็แค่เลือกธีมที่รองรับคุณสมบัติที่คุณต้องการเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณทำงานตามที่คาดหวังไว้
เรื่องงบประมาณไม่ใช่ปัญหา
ธีม WordPress มีมากหมายหลายหมื่นแบบ มีทั้งที่เสียเงินและไม่เสียเงินดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องคิดมากเกี่ยวกับงบประมาณแลยแม้แต่น้อย เพราะถึงแม้ว่าเวอร์ชัน PRO ของธีม WordPress ที่มีคุณสมบัติขั้นสูง ๆ ราคายังไม่ถึงหมื่นเลย อยู่ในหลักพันต้นๆ แต่ก็การันตีได้ว่ามีฟีเจอร์ที่รองรับเหมือนกับเว็บใหญ่ๆ ทุกประการ
สิ่งที่ควรมองหาในธีม WordPress Theme
ง่ายต่อการใช้งานและติดตั้ง
หลายๆ ธีมของ WordPress มีการปรับแต่งที่บางครั้งก็ดูสับสน มีเฉดสีที่หลากหลาย อนิเมชันและการออกแบบที่ซับซ้อน อาจดูน่าสนใจตอนแรก แต่แน่นอนว่าตอนติดตั้งคุณจะต้องปวดหัวแน่นอนดังนั้นให้เลือกธีมที่ติดตั้งง่ายเข้าไว้ ถ้ามีตัว Demo import ด้วยก็จะดีมาก
โหลดเร็วและน้ำหนักเบา
WordPress theme มีผลต่อความเร็วในการโหลดของเว็บไซต์ ดังนั้นควรเลือกใช้ธีมที่มีน้ำหนักเบาและโหลดเร็ว ตามการศึกษาพบว่า 40% ของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์จะออกไปหากใช้เวลามากกว่า 3 วินาทีในการโหลด และเวลาที่เหมาะสมในการโหลดของเว็บไซต์คือ 2 วินาที ดังนั้นควรเลือกใช้ธีมที่ช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น
ที่ตอบสนองได้บนอุปกรณ์และเบราว์เซอร์ทุกประเภท
มุมมองที่รองรับหน้าจอมือถือไม่ใช่ตัวเลือกอีกต่อไป แต่มันเป็นคุณสมบัติที่ต้องมีในธีมของ WordPress ส่วนใหญ่ของผู้อ่านเข้าเว็บไซต์โดยใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ ดังนั้นเป็นความรับผิดชอบของผู้สร้างธีม
เข้ากันได้กับโปรแกรมสร้างเว็บไซต์หรือ Page Buider
ยกตัวอย่างเช่น Elementor, Divi, Gutenberg, Beaver ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่สำคัญบน WordPress คุณจะไม่สามารถออกแบบเว็บไซต์เพิ่มเติมได้หากธีมของคุณไม่เข้ากันกับเครื่องมือสร้างเว็บไซต์เหล่านี้ อย่าลืมตรวจสอบความเข้ากันได้ของ Theme WordPress และ Page Builder
รองรับปลัักอินที่ทั่วไปของ WordPress
คุณจำเป็นต้องใช้ปลั๊กอินมากมายเพื่อให้ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือที่มีอยู่ใน WordPress เพื่อให้ธีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นธีมต้องรองรับปลั๊กอินที่จำเป็นในการสร้างเว็บไซต์ด้วย
พร้อมสำหรับใช้งานในหลายภาษา
คุณมีลูกค้าอยู่ทั่วโลกใช่หรือไม่ ถ้าคำตอบคือใช่ ธีมของเว็บไซต์จึงจำเป็นต้องรองรับการใช้งานหลายภาษาหรือ Multilingual โดยสามารถใช้ปลั๊กอินนี้ร่วมกับธีมต่างๆ ของ WordPress ได้ ซึ่งธีมส่วนใหญ๋รองรับส่วนนี้อยู่แล้ว
มีทีมงานคอยซัพพอร์ทหลังบ้าน
Available Support When Required หมายถึง การมีทีมดูแลลูกค้าที่พร้อมเมื่อมีความต้องการ โดยมีผู้ที่พร้อมจะช่วยเหลือหรือให้คำปรึกษาเมื่อมีความจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการติดตั้งหรือสถานการณ์ที่ต้องการความช่วยเหลืออื่น ๆ
เป็นมิตรกับ SEO
SEO Friendliness หมายถึง การออกแบบและสร้างเว็บไซต์โดยให้ความสำคัญกับการทำให้เว็บไซต์มีความเหมาะสมกับการค้นหาของเครื่องมือค้นหา เพื่อให้เว็บไซต์มีโอกาสที่จะปรากฏในผลการค้นหาที่ดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้เว็บไซต์มีโอกาสที่จะได้รับการเข้าถึงและมีการเยี่ยมชมมากขึ้นในที่สุด
มีการปรับแต่งที่ครบครัน
เว็บไซต์ที่ดีต้องสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการทั้ง แก้ไขการออกแบบและเค้าโครงรวมถึงสี ฟอนต์ รูปภาพ ส่วนหัว ส่วนท้าย และอื่น ๆ ดังนั้นธีมทุกธีมต้องมีเมนู Customize ที่สามารถแก้ไขได้บนหน้า Frontend และ Backend
ได้คะแนนรีวิวที่ดี
จำนวนรีวิวที่ดีมากหมายถึงมีผู้คนจำนวนมากเคยใช้ธีมนั้น ๆ แล้ว และส่วนใหญ่พึงพอใจกับประสิทธิภาพ คุณควรพิจารณารีวิวและคะแนนจากผู้ใช้เมื่อเลือกธีมสำหรับเว็บไซต์ WordPress ของคุณ ในเว็บ Marketplace ใหญ่ๆ จะมีส่วนนี้อยู่แล้ว
สิ่งที่ไม่ควรมีในTheme WordPress
- หลีกเลี่ยงธีมที่ทำให้เว็บบวม หรือธีมที่มีฟีเจอร์มากเกินไป
- อย่าเลือกฟอนท์ที่มีตัวอักษรที่ยากต่อการอ่าน
- อย่าติดตั้งธีมที่ไม่ได้รับการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ
- อย่าใช้ธีมราคาแพงเกินควร
- หลีกเลี่ยงการใช้ short codes ที่มากเกินไป
- อย่าซื้อธีมจากเว็บไซต์ที่ไม่มีการรับรอง
- สุดท้ายและสำคัญอย่างยิ่งอย่าติดตั้งธีมที่ให้ดาวนโหลดฟรีจากแหล่งอื่น มันอาจเป็นความเสี่ยงที่สำคัญสำหรับเว็บไซต์ของคุณ
สรุปทิ้งท้าย
คุณควรใช้ธีมที่เรียบง่าย และมีความเร็ว น้ำหนักเบา และตอบสนองได้ดี นอกจากนี้ยังต้องสามารถแปลงเป็นภาษาอื่นได้ และเพื่อทำอันดับควรมี SEO-friendly สำหรับเว็บไซต์ WordPress ของคุณ ธีมควรมีการปรับแต่งที่เหมาะสม รองรับปลั๊กอินที่นิยม และเป็นมิตรกับอุปกรณ์บนมือถือคือสิ่งที่สำคัญทั้งสิ้น