Perfmatters Plugin ตัวเลือกที่ 2 ของเครื่องมือเพิ่มความเร็วเว็บไซต์

การเพิ่มความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้เท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการจัดอันดับในเครื่องมือค้นหาอีกด้วย ในโลกของเว็บไซต์นั้นนอกจาก WProcket แล้วเรายังมี Perfmatters เป็นหนึ่งในปลั๊กอินที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือในเรื่องนี้โดยเฉพาะ

ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในยุคเจน z มีแนวโน้มสมาธิสั้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนใหญ่แล้วรอให้เว็บไซต์โหลดน้อยกว่า 5-10 วินาทีถ้าช้ากว่านี้ผู้ใช้จะออกจากเว็บแน่นอน ดังนั้นคุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์โหลดเร็วภายในกรอบเวลาสั้น ๆ

 Perfmatters คืออะไร?

ปลั้กอินนี้คือสิ่งที่คุณต้องการ ปลั๊กอินเพิ่มประสิทธิภาพเฉกเช่นเดียวกับ Wprocket ตัว Perfmatters มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการเพิ่มประสิทธิภาพที่หลากหลายเพื่อช่วยให้เว็บไซต์ WordPress โหลดเร็วขึ้น.

คุณสมบัติที่สําคัญของ Perfmatters

ปลั๊กอินมีคุณสมบัติและการเพิ่มประสิทธิภาพต่างๆ ให้เว็บไซต์ที่สําคัญ ได้แก่

1. Script manager

ตัวจัดการสคริปต์ Perfmatters ให้คุณเลือกปิดใช้งานสคริปต์และสไตล์ที่ไม่จําเป็นในแต่ละหน้า คุณลักษณะนี้ช่วยลดจํานวนคําขอ HTTP และปรับปรุงเวลาในการโหลดหน้าเว็บ

2. การควบคุมการโหลดทรัพยากร

ปลั๊กอินมีตัวเลือกในการควบคุมการโหลดเนื้อหาเช่นไฟล์ CSS และ JavaScript คุณสามารถเลื่อนหรือโหลดแบบอะซิงโครนัส ปรับลําดับและระยะเวลาของการโหลดสินทรัพย์ให้เหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

3. Lazy loading

Perfmatters ยังมีฟังก์ชั่น Lazy loading ซึ่งชะลอการโหลดรูปภาพและวิดีโอจนกว่าจะมีการเลื่อน Scrolbar บนหน้าจอของผู้ใช้.

4. การเพิ่มประสิทธิภาพฐานข้อมูล

ด้วยปลั๊กอิน Perfmatters คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพฐานข้อมูล WordPress โดยการลบข้อมูลที่ไม่จําเป็น เช่น การแก้ไขโพสต์คอมเม้นที่เป็นสแปมออกจากฐานข้อมูล

5. เชื่อมต่อล่วงหน้า

Preconnect” เป็นเทคนิคการโหลดทรัพยากรล่วงหน้าที่ช่วยให้เบราว์เซอร์สามารถตั้งการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่จะต้องใช้งานในอนาคตได้ก่อนที่จะมีการร้องขอทรัพยากรจริงๆ

6. Heartbeat control

Perfmatters ช่วยให้คุณสามารถปรับหรือปิดใช้งาน API ซึ่งมีประโยชน์ในการลดการใช้ทรัพยากรเซิร์ฟเวอร์ API รับผิดชอบงานต่าง ๆ เช่นการบันทึกอัตโนมัติและการอัปเดตแบบเรียลไทม์และการควบคุมสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพได้

7. Query string removal

Perfmatters ทำได้ดีในแง่ของการลบจำนวนการร้องขอที่มากเกินไป ออกจากทรัพยากรแบบคงที่ เช่น ไฟล์ CSS และ JavaScript การลบสตริงคิวรีสามารถเพิ่มความเข้ากันได้ในการแคชส่งผลให้เวลาในการโหลดหน้าเว็บดีขึ้น

8. Remove WordPress bloat

bloat หมายถึงกระบวนการลบหรือปิดการใช้งานคุณสมบัติ, สคริปต์, สไตล์, และการตั้งค่าที่ไม่จำเป็นซึ่งอาจทำให้เว็บไซต์ช้าลงหรือบริโภคทรัพยากรมากเกินไปโดยไม่มีประโยชน์
WordPress ยังมีคุณสมบัติและฟังก์ชันบางอย่างที่อาจไม่จําเป็นสําหรับเว็บไซต์ดังนั้น Perfmatters ช่วยให้คุณสามารถลบหรือปิดใช้งานได้ อย่างเช่น emojis, embeds, XML-RPC และส่วนประกอบ WordPress อื่น ๆ

9. การดึงข้อมูล DNS ล่วงหน้า

Perfmatters รองรับการดึงข้อมูล DNS ล่วงหน้า ช่วยให้คุณสามารถระบุโดเมนสําหรับการแก้ปัญหา DNS สิ่งนี้จะช่วยลดเวลาแฝงที่เกี่ยวข้องกับการค้นหา DNS ส่งผลให้โหลดหน้าเว็บช้านั่นเอง

10. ลดการโหลดสคริปต์จาก Google Analytics

คุณสามารถลดการโหลดสคริปจาก Google Analytics ด้วยปลั๊กอินนี้ ในเซิร์ฟเวอร์เอง การลดคําขอภายนอกช่วยปรับปรุงเวลาในการโหลด คุณลักษณะนี้ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว ลดการพึ่งพาทรัพยากรภายนอกและอาจส่งผลดีต่อประสิทธิภาพของเว็บไซต์ได้

ทําไมคุณควรใช้ Perfmatters บนเว็บไซต์

การใช้ปลั๊กอินการเพิ่มประสิทธิภาพ Perfmatters อาจส่งผลให้เกิดผลลัพธ์หลายประการที่นําไปสู่การปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์และประสบการณ์

1. Perfmatters ช่วยลดเวลาในการโหลดหน้าเว็บส่งผลให้เว็บไซต์เร็วขึ้นและตอบสนองได้มากขึ้น
2. ปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ ด้วยเวลาในการโหลดหน้าเว็บที่เร็วขึ้น ผู้เข้าชมเว็บไซต์จะสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้อย่างรวดเร็ว
3. เพิ่มประสิทธิภาพมือถือ คุณสมบัติการโหลดแบบThe lazy loading ใน Perfmatters ช่วยให้มั่นใจได้ว่ารูปภาพและวิดีโอจะถูกโหลดเมื่อมองเห็นได้บนหน้าจอมือถือเท่านั้น
4. ปรับปรุงการใช้ทรัพยากรเซิร์ฟเวอร์ ด้วยการปรับหรือปิดใช้งาน WordPress Heartbeat API Perfmatters ช่วยลดการใช้ทรัพยากรเซิร์ฟเวอร์ที่เกี่ยวข้องกับงานต่างๆ
5. การมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้น: ด้วยเวลาในการโหลดหน้าเว็บที่เร็วขึ้นและประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ดีขึ้นผู้เข้าชมมีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมและดําเนินการที่ต้องการเช่นการ ซื้อ, สมัครรับจดหมายข่าว หรือกรอกแบบฟอร์ม สิ่งนี้สามารถส่งผลกระทบในเชิงบวกต่ออัตราการแปลง

ข้อควรทราบคือ ผลลัพธ์เฉพาะของการใช้ Perfmatters อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการกําหนดค่าเว็บไซต์การเพิ่มประสิทธิภาพที่ใช้และปัจจัยอื่น ๆ ขอแนะนําให้ตรวจสอบทดสอบและปรับแต่งการตั้งค่าของปลั๊กอินเป็นประจําเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดสําหรับเว็บไซต์

วิธีใช้ Perfmatters เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซ

เนื่องจาก Perfmatters ไม่มีเวอร์ชันฟรีที่สามารถค้นหาได้ใน WordPress คุณจึงต้องซื้อจากเว็บไซต์ทางการและขอหลีกเลี่ยงการใช้ปลั๊กอินที่แคร็กมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุดนะครับ

ขั้นตอนที่ 1: ซื้อและดาวน์โหลดปลั๊กอิน Perfmatters

เข้าไปที่เว็บไซต์ Perfmatters อย่างเป็นทางการที่ https://perfmatters.io และซื้อปลั๊กอิน เมื่อคุณทําการซื้อเสร็จแล้ว คุณจะได้รับลิงก์ดาวน์โหลด และบันทึกไฟล์ ZIP ของปลั๊กอินบนคอมพิวเตอร์ได้ทันที

ขั้นตอนที่ 2: ติดตั้ง Perfmatters บนเว็บไซต์

ลงชื่อเข้าใช้พื้นที่ผู้ดูแลระบบ WordPress โดยป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน ไปที่ส่วน Plugin ในเมนูด้านซ้ายมือและคลิกที่ “Add New”

ทำการคลิกเมนู “Upload Plugin” . เลือกไฟล์ปลั้กอินที่เราดาวน์โหลดไว้แล้ว ( ZIP format)จากนั้นคลิก“Install Now.”

หลังจากอัปโหลดปลั๊กอินสําเร็จให้คลิกที่ปุ่ม “Activate” เพื่อเปิดใช้งาน Perfmatters บนเว็บไซต์ WordPress

ขั้นตอนที่ 3: เข้าถึงการตั้งค่า Perfmatters

ในพื้นที่ผู้ดูแลระบบ WordPress ค้นหาเมนู Setting และคลิกที่แท็บ “Perfmatters” ในเมนูด้านซ้ายมือและคลิกที่มัน การดําเนินการนี้จะนําคุณไปยังหน้าการตั้งค่า Perfmatters

คุณจะพบแท็บและตัวเลือกต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพ สามารถสํารวจฟังก์ชันการทํางาน ประเด็นสําคัญๆ ได้แก่ Script Manager, Asset Loading, Lazy Loading, Database Optimization และอื่น ๆ

ขั้นตอนที่ 4: กําหนด General Setting ตามความต้องการ

หน้าการตั้งค่ามีเมนูแยกกัน 7 เมนูที่แถบด้านบน ได้แก่ General, Assets, Preloading, Lazy Loading, Fonts, CDN และ Analytics คลิกที่เมนูที่เกี่ยวข้องที่คุณต้องการกําหนดค่า

หมายเหตุสําคัญ: เมื่อคุณปรับการตั้งค่าตามความต้องการแล้วอย่าลืมบันทึกการเปลี่ยนแปลงโดยคลิกปุ่ม “save change” ที่ด้านล่างของแต่ละแท็บหรือที่ส่วนท้ายของหน้าการตั้งค่า

General settings การตั้งค่าทั่วไป

ในส่วนของเมนูทั่วไปคุณสามารถเลือกปิดใช้งานอิโมจิ, dashicons, embeds, XML-RPC, Rest API และอื่น ๆ การเปิดหรือปิดใช้งานฟังก์ชันเหล่านี้ทําได้ง่ายมาก คุณสามารถคลิกปุ่มสลับและเลือกตัวเลือกจากเมนูแบบเลื่อนลงเมื่อต้องการ

Assets loading settings การควบคุมการโหลด ทรัพยากร

Perfmatters ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมฟังก์ชันการโหลดทรัพยากรได้ มันมาพร้อมกับตัวจัดการสคริปต์ที่ช่วยในการปิดใช้งานสคริปต์ในโพสต์และหน้า คุณสามารถเพิ่มความเร็วของเว็บไซต์ WordPress ได้อย่างมากโดยใช้คุณสมบัตินี้

คุณยังสามารถเลื่อนและหน่วงเวลาไฟล์ JavaScript จากส่วนการโหลดเนื้อหาได้อีกด้วย เพียงคลิกปุ่มสลับและระบุชื่อไฟล์ JS ที่คุณต้องการหน่วงเวลาและเลื่อนออกไป

Preloading settings

คลิกที่เมนูย่อย ‘Preloading” เลือกตําแหน่งของทรัพยากร (รูปภาพ แบบอักษร JavaScript ฯลฯ) สําหรับแบบอักษร URL ควรมีลักษณะเหมือน https://yourdomain.com/font.woff คุณยังสามารถตั้งค่าโหลดล่วงหน้าตามประเภทของอุปกรณ์ (เช่นมือถือเดสก์ท็อป)

Lazy Loading settingsการตั้งค่า Lazy Loading

Lazy loading ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการ “ลด” การโหลดรูปภาพวิดีโอและองค์ประกอบสื่ออื่น จนกว่าจะจําเป็นจริง ๆ หรือผู้ใช้สามารถมองเห็นได้

คุณยังสามารถหน่วงเวลาการโหลดภาพขนาดย่อหน้าปก YouTube ได้ด้วยนะครับโดยเลื่อนที่ปุ่ม Youtube Preview Thumpnail

Fonts settings การตั้งค่าแบบอักษร

การตั้งค่าฟอนท์แนะนำให้ใช้ฟอนท์ที่ตั้งค่ามาให้เท่านั้น เมนูสำคัญในส่วนนี้คือ “Display Swap” สามารถกดเลื่อนเพื่อเปิดใช้งานได้ทันที

การตั้งค่า CDN

คุณสามารถเพิ่มความเร็วเว็บไซต์ได้โดยใช้ CDN และส่งเนื้อหาเว็บเช่นรูปภาพไฟล์ CSS ไฟล์ JavaScript และวิดีโอไปยังผู้ใช้ปลายทางอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น

 การตั้งค่า Goole Analytics

เมื่อคุณร้องขอให้โหลดข้อมูลจาก Google Analytics ผ่านโฮสต์ จะต้องมีการค้นหา DNS (Domain Name System) ซึ่งต้องใช้เวลามากขึ้นในการโหลดเว็บไซต์ คุณสามารถเพิ่มความเร็วในการโหลดนี้ได้โดยการใช้ Local Analytics

การตั้งค่าการเพิ่มประสิทธิภาพ Database

หน้าการตั้งค่า Perfmatters มีเมนู 2 Menu ที่แถบด้านบน ไปที่ส่วน “Tools” เพื่อขยายตัวเลือกการเพิ่มประสิทธิภาพฐานข้อมูล หน้านี้มีตัวเลือกในการแก้ไขโพสต์ที่อยู่ในโหมดDraft ชั่วคราว คอมเม้นสแปมและอื่น ๆ เพียงเลือกรายการที่คุณต้องการเพิ่มประสิทธิภาพและคลิกที่ปุ่ม “Optimize Now”

Perfmatters ยังสามารถตั้งเวลาอัตโนมัติ กําหนดกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพเป็นรายวัน / รายสัปดาห์ / รายเดือน

ขั้นตอนที่ 5: ตรวจสอบประสิทธิภาพของเว็บไซต์

หลังจากกําหนดค่าปลั๊กอิน Perfmatters แล้วขอแนะนําให้ทดสอบประสิทธิภาพของเว็บไซต์โดยใช้เครื่องมือเช็คความเร็บของเว็บไซต์อย่างเช่น GTmetrix หรือ PageSpeed Insights

อย่าลืมอัปเดตปลั๊กอิน Perfmatters เป็นประจําเพื่อรับประโยชน์จากฟีเจอร์ล่าสุดและการแก้ไขบั้กทีมีด้วย

ตัวอย่างเว็บไซต์ก่อนใช้ ปลั๊กอิน Perfmatter

หลังใช้ ปลั๊กอิน Perfmatt เพิ่มความเร็วเว็บไซต์

 

แพ็คเก็จราคาของปลั๊กอิน Perfmatters

Perfmatters มีแพ็คเก็จหลายแบบตามจํานวนเว็บไซต์ที่คุณต้องการใช้ ราคาของปลั๊กอินมี 3 แบบดังนี้

• Single site license – Personal สำหรับใช้งาน บนเว็บไซต์เดียวเท่านั้น มีราคาอยู่ที่ 24.95 ดอลลาร์ต่อปีและรวมถึงการอัปเดตและการซัพพอร์ทตลอด 1 ปีเต็ม
• Three sites license Business: คุณสามารถใช้ปลั๊กอินนี้ได้ 3 เว็บ พร้อมกับการซัพพอร์ทและการอัปเดตหนึ่งปีราคาแพ็คเก็จนี้ที่ 54.95 ดอลลาร์ ต่อปี
• Unlimited sites license แผนคุ้มสุด: มีค่าใช้จ่าย 124.95 ดอลลาร์ต่อปี แผนนี้ยังรวมถึงการอัปเดตและการซัพพอร์ท 1 ปีเต็ม