WooCommerce เป็นปลั๊กอินช่วยสร้างร้านค้าอีคอมเมิร์ชยอดนิยมในระบบ WordPress มายาวนาน ที่ยังไม่มีใครมาโค่นล้มได้เสียที แต่เมื่อปี 2022 มีปลั๊กอินน้องใหม่ไฟแรงที่ชื่อว่า SureCart ได้ก้าวเข้ามาในยุทธจักรและพร้อมที่จะมาท้าทายความเป็นหนึ่งในครั้งนี้
SureCart ทางเลือกใหม่ในการขายทุกสิ่งอย่างบน WordPress
มาถึงก็จัดไปก่อนเลยด้วยประโยคเชือดเฉือนใส่ WooCommerce จาก SureCart “บอกลาปลั๊กอินอีคอมเมิร์ซเก่าๆ ที่บวมและซับซ้อน ใช้งานยาก ต้องใช้ Addons ราคาแพงสำหรับคุณสมบัติแค่พื้นฐาน และทำให้เว็บไซต์ของคุณช้าลงอีกต่างหาก” SureCart กำลังจะทำผู้ใช้ WordPress ใช้ในสิ่งที่แตกต่างออกไปครับ
SureCart เป็นปลั๊กอินอีคอมเมิร์ซที่ทันสมัย ใช้งานง่าย และกำลังเติบโตอย่างน่าสนใจ เปิดตัวเวอร์ชั่นแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2022 เมื่อไล่ดูจาก Timeline ย้อนหลัง ปลั๊กอินนี้มีการพัฒนาอัพเดตมาอย่างต่อเนื่องแทบทุกเดือนจนถึงปี 2024 ล่าสุดมียอดติดตั้งไปแล้วกว่า 20,000 ครั้ง ยิ่งถ้าบอกว่าปลั๊กอินนี้เป็นปลั๊กอินจากผู้ผลิตธีมชื่อดังอย่าง Astra และปลั๊กอินสร้างช่องทางการขายอย่าง CartFlows เพื่อนๆ อาจจะต้องร้องว้าว
SureCart เหมาะกับใครบ้าง
เอเจนซี่ ทาง SureCart เผยว่าพวกเอเจนซี่เว็บได้ลูกค้าร้านค้าออนไลน์มากขึ้น เนื่องจาก SureCart ติดตั้งและจัดการได้ง่าย และลูกค้าก็ชอบมัน
ร้านค้าสินค้าที่จับต้องได้ ผู้ขายชื่นชอบความง่ายในการตั้งค่าร้านค้าออนไลน์ จัดการการปฏิบัติตามคำสั่งซื้อ และสร้าง AOV ที่สูงขึ้นด้วยการทำให้คนที่หยิบสินค้าใส่รถเข็นแล้วไม่ซื้อกลับมา การเพิ่มคำสั่งซื้อ และการขายแบบ upsells
การขายการสมัครสมาชิก โปรแกรมการฝึกสอน ผู้สร้างหลักสูตร เว็บไซต์สมาชิก และบริษัท SaaS ที่ต้องการคุณสมบัติการจัดการการสมัครสมาชิกขั้นสูงและการเก็บรักษา
บริการการขาย ส่วนใหญ่เป็นเอเจนซี่บนเว็บ บริการด้านกฎหมาย ธุรกิจในท้องถิ่นที่ขายผ่านการสมัครสมาชิก แผนการผ่อนชำระ และค่าธรรมเนียมการติดตั้ง
การดาวน์โหลดแบบดิจิทัล Ebooks สิ่งพิมพ์ งานสร้างสรรค์ แม้แต่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ WordPress หลายคนก็ใช้ SureCart ด้วย
การบริจาค องค์กรการกุศลและโครงการต่างๆ ที่ต้องการมีแบบฟอร์มการบริจาคที่ยืดหยุ่น แต่ยังสามารถขายผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้
SureCart มีฟีเจอร์ทั้งหมดสำหรับการขายสินค้า มีร้านค้า หน้าแสดงสินค้า ตระกร้าสินค้า หน้าชำระเงิน รวมถึง product variations, คอลเลคชั่นสินค้า, คูปอง, การติดตามสินค้าคงคลัง, การคำนวณค่าจัดส่ง, การคืนสินค้า และพื้นที่สำหรับลูกค้า
ปลั๊กอินการสมัครสมาชิกที่ทันสมัย
การขายการสมัครสมาชิก หรือ Subscription ผ่าน SureCart ทำได้ง่าย จริงๆ มีปลั๊กอินหลายประเภท เช่น ปลั๊กอินสร้างแบบฟอร์ม, ปลั๊กอิน LMS, ปลั๊กอินสำหรับสมาชิก, ปลั๊กอินอีคอมเมิร์ซก็สามารถทำได้ครับ แต่ปลั๊กอินพวกนี้แค่ช่วยในการขายการสมัครสมาชิกและเสนอการจัดการ การรักษาสมาชิกเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ทาง SureCart ได้ระบุว่าถ้าเราใช้ปลั๊กอินอื่นๆ ในการขายการสมัครสมาชิก เราก็จะมีแนวโน้มที่จะจ่ายค่าธรรมเนียมการชำระเงินที่สูงขึ้นและมีการเลิกใช้งานที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน
ถ้าเราขายการสมัครสมาชิกและชำระเงินผ่าน Stripe โดยใช้ปลั๊กอินแบบฟอร์ม ปลั๊กอินสมาชิก ปลั๊กอินหลักสูตรออนไลน์ แพลตฟอร์ม SaaS เช่น ThriveCart หรือวิธีใด ๆ เหล่านี้ ทางคนขายจะต้องจ่ายเงินพิเศษราว 0.5% – 0.8% ของทุกธุรกรรมการสมัครสมาชิกให้กับ Stripe ซึ่งถ้าเราใช้ SureCart เราสามารถหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียม เหล่านี้ได้ เนื่องจาก SureCart จะจัดการการสมัครสมาชิก จัดการใบแจ้งหนี้ และจัดการการชำระเงินอัตโนมัติให้ ซึ่งวิธีนี้ช่วยให้ประหยัดเงินได้มหาศาลเลยทีเดียว
ผู้ท้าชิง WooCommerce
SureCart ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้ WordPress มีตัวเลือกที่ดีกว่าในการขายสินค้าบนเว็บไซต์ ปัจจุบันผู้ค้าส่วนใหญ่ใช้ WooCommerce ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วเพื่อสร้างร้านค้าพาณิชย์ขนาดใหญ่ เช่น Amazon, Walmart เป็นต้น แต่ SureCart ใช้แนวทางที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สร้างขึ้นจากพื้นฐานจนถึงขั้นประสิทธิภาพสูง สวยงามและใช้งานง่าย
SureCart วางแผนที่จะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ใช้ WooCommerce คุณอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายราว $ 2,000 กว่าเหรียญต่อปีต่อร้านค้าเพื่อซื้อ Add-ons เสริมของ WooCommerce เพื่อได้รับฟีเจอร์เดียวกันกับที่ SureCart เสนอให้ และร้านค้าของเราอาจจะเกิดความขัดแย้งของปลั๊กอิน เจอช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ต้องมาไล่อัปเดตปลั๊กอินแต่ละตัวอยู่เป็นประจำ และเว็บไซต์อาจจะทำงานช้ากว่าเป็นต้น
มีหลายกรณีที่การใช้ WooCommerce อาจเป็นทางเลือกเดียวสำหรับร้านค้าของคุณ เนื่องจาก Add-ons การชำระเงินและเกตเวย์การชำระเงิน แนวทางของ SureCart แตกต่างออกไป เพราะทุกอย่างมีมาในตัว ไม่ต้องใช้โปรแกรมเสริม ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น เว็บไซต์ทำงานเร็วขึ้น
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
มาถึงฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เราจะมาลองไล่ดูว่าน่าย้ายค่ายจาก WooCommerce มาใช้ SureCart ตามที่เขาคุยโวเรื่องสรรพคุณข้างต้นไว้หรือไม่นะครับ
+ รองรับการชำระเงินหลายรายการ ชำระเงินด่วน ApplePay และ GooglePay เชื่อมต่อกับ Stripe, PayPal และ Mollie ได้อย่างง่ายดายด้วยการสนับสนุนมากกว่า 135 สกุลเงิน 45+ ประเทศ และวิธีการชำระเงินมากมาย รวมถึงบัตร กระเป๋าเงิน เดบิตธนาคาร และอื่นๆ สามารถใช้โปรเซสเซอร์หลายตัวในแบบฟอร์มชำระเงินเดียว นอกจากนี้ยังสามารถเลือกยอมรับตัวเลือกการชำระเงินด่วนของ ApplePay หรือ GooglePay ได้
+ ตัวเลือกการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพ การชำระเงินแบบครั้งเดียว การสมัครสมาชิก การสมัครสมาชิกพร้อมการทดลองใช้ฟรี ค่าธรรมเนียมการติดตั้ง แผนการชำระเงิน (ผ่อนชำระ) จ่ายตามที่ต้องการ การบริจาค SureCart ครอบคลุมช่องทางการชำระเงินส่วนใหญ่ ทั้งหมดนี้ให้ฟรีครับ
+ ระบบการชำระค่าสมัครสมาชิก Subscription ที่สมบูรณ์แบบ ระบบสมัครสมาชิกของ SureCart มีตัวเลือกการชำระเงินค่าสมัครสมาชิกที่หลากหลาย สามารถขายการสมัครสมาชิกได้ตามที่ต้องการ นำเสนอการอัปเกรดหรือดาวน์เกรดตามสัดส่วน ดังนั้นหากเราเสนอการสมัครสมาชิกรายเดือนหรือรายปีและผู้ซื้อต้องการอัปเกรด SureCart สามารถแบ่งการอัปเกรดตามสัดส่วนได้ ไม่ธรรมดาเลยข้อนี้
+ ช่องทางการขายแบบ Order Bumps และแบบ Upsell ผู้ค้า SureCart สามารถทำกำไรได้มากขึ้นเนื่องจากมีฟีเจอร์การเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการเพิ่มคำสั่งซื้อในคลิกเดียว โพสต์การซื้อเพิ่มยอดขายในคลิกเดียว และการกู้คืนการละทิ้งรถเข็นของผู้ซื้อ
+ Affiliate สร้างยอดขายเพิ่มโดยการเพิ่มโปรแกรม Affiliate ในเวลาเพียงไม่กี่นาที สามารถปรับแต่งโปรแกรม Affiliate แต่ละด้านได้ รวมถึงค่าคอมมิชชั่นตลอดชีพ อัตรา Affiliate ที่กำหนดเอง คูปอง Affiliate และอื่นๆ อีกมากมาย
+ การอัปเกรดและดาวน์เกรดการสมัครสมาชิก
พื้นที่ลูกค้าสามารถปรับแต่งได้ เราสามารถควบคุมสิ่งที่ลูกค้าเห็นและสามารถทำได้ได้อย่างเต็มที่ เช่น สามารถให้ลูกค้าของคุณเปลี่ยนรายละเอียดส่วนบุคคล รหัสผ่าน เข้าถึงการดาวน์โหลดดิจิทัลที่ปลอดภัย อัปเดตบัตรเครดิตในไฟล์ อัปเกรดการสมัครสมาชิก ดาวน์เกรดการสมัครสมาชิก ทั้งหมดนี้มาพร้อมกับประสบการณ์การใช้งานที่สวยงามและทันสมัย
+ ประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ปรับแต่งได้ ปรับแต่งหน้าสินค้า หน้าร้านค้า ตะกร้าสินค้า และแดชบอร์ดลูกค้าโดยใช้ตัวแก้ไขแบบ Drag and Drop ที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ
+ เครื่องมือสร้างแบบฟอร์มการชำระเงินที่กำหนดเอง สร้างได้มากเท่าที่ต้องการ เพียงลากและวางช่อง ตัวเลือกราคา ตัวเลือกการบริจาค ช่อง Checkbox และส่วนอื่นๆ เพื่อสร้างแบบฟอร์มการชำระเงินที่สมบูรณ์แบบ
+ สร้างส่วนลดคูปอง วิธีที่ดีในการเพิ่มยอดขาย สามารถสร้างคูปองได้ไม่จำกัดและเพิ่มคูปองโดยอัตโนมัติด้วยพารามิเตอร์ URL
+ การส่งไฟล์ดิจิทัลที่ปลอดภัย ถ้าเราขายการดาวน์โหลดไฟล์ดิจิทัล ซอฟต์แวร์ สิ่งพิมพ์ ebook และอื่นๆ SureCart สามารถจัดส่งให้กับผู้ซื้อของเราได้อย่างปลอดภัย
+ Slide-out Cart ตระกร้าสินค้าแบบเลื่อนที่สวยงามและรวดเร็ว
+ ปฏิบัติตามข้อกำหนดของสหภาพยุโรป ถ้าเราอยู่ในสหภาพยุโรป จะมีข้อกำหนดที่เข้มงวดมากเกี่ยวกับ VAT วิธีแสดงราคาที่รวม VAT ข้อมูลใดในใบแจ้งหนี้ วิธีกำหนดหมายเลขใบแจ้งหนี้ ฯลฯ ซึ่งตรงนี้ SureCart ครอบคลุมสิ่งเหล่านี้เรียบร้อย
+ Integrate และ Automate ส่วนที่สำคัญที่สุดของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซคือการผสานรวมกับปลั๊กอินและแพลตฟอร์มภายนอกอื่นๆ SureCart นำเสนอการผสานรวมกับปลั๊กอิน WordPress มากมาย ดังนั้นสามารถใช้ SureCart กับอีคอมเมิร์ซทั้งหมดได้เลย
+ การปรับขนาดการซื้อแบบไร้รอยต่อ หากเราใช้ปลั๊กอินอีคอมเมิร์ซอื่นๆ ถ้ามีผู้ซื้อจำนวนมากในช่วงลดราคาหรือการส่งเสริมการขายครั้งใหญ่ ถ้าเราไม่ได้ใช้โฮสติ้งที่ทรงพลังและมีราคาสูง เว็บไซต์ของเรามีโอกาสจะช้าหรือล่มได้เลย แต่ SureCart เป็น platform based เรียกว่าเป็นระบบ Ecommerce engine สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีเดียวกันกับ Shopify, Basecamp, GitHub, Twitter, Stripe เมื่อเรามีผู้ซื้อใหม่จำนวนมาก จึงไม่ต้องกังวลเพราะ SureCart จะดูแลการปรับขนาดการซื้อให้กับคุณ
+ การคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีการขายแบบเรียลไทม์ SureCart เชื่อมต่อกับระบบ TaxJar อย่างสมบูรณ์ และจ่ายค่าคำนวณให้ ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องทำเอง
+ เข้ากันได้กับ Page Builder ต่างๆ เช่น Elementor, Bricks Builderม Spectra, Divi, Beaver, Thrive Architect, Gutenberg, Oxygen ฯลฯ
+ เข้ากันได้กับธีมต่างๆ เช่น Astra, Avada, Blocksy, Divi, Flatsome, GeneratePress, Kadence, Neve. OceanWP, Spectra One
+ เข้ากันได้กับปลั๊กอินยอดนิยม เช่น BuddyBoss, SureMembers, Presto Player, TutorLMS, LearnDash, LifterLMS, MemberPress, AffiliateWP, Thrive Automator
ทดลองติดตั้งและใช้งาน
ไปที่เมนู Plugins > Add new plugin ค้นหาคำว่า SureCart กดติดตั้งและ Activate ได้เลยครับ
หลังจากติดตั้งแล้วสามารถเข้าถึงปลั๊กอินได้เมนู SureCart > Get Started เมื่อเข้ามาครั้งแรกจะพบกับ Wizard การ Setup เพื่อเปิดร้านค้า ให้กดปุ่ม Create New Store
ขั้นตอนถัดมาสามารถกำหนด Brand Color สีของร้าน และสกุลเงินที่เราต้องการ เมื่อเลือกแล้วกด Continue
เราจะพบกับหน้าให้เลือกจุดเริ่มต้นว่าจะเริ่มแบบไม่มีอะไรเลยหรือเริ่มแบบมีตัวอย่างสินค้า ณ ที่นี่เราลองเลือกแบบมีตัวอย่างสินค้าเพื่อให้เพื่อนๆ ได้เห็นภาพตัวอย่างกันไปเลยครับ
กรอกอีเมล์ของเราสำหรับรับการแจ้งเตือนเมื่อมีคำสั่งซื้อ การแจ้งเตือนเกี่ยวกับการชำระเงิน ฯลฯ ที่เกี่ยวกับร้านค้า
เมื่อระบบทำการติดตั้งเรียบร้อย เราจะเจอหน้านี้ กดปุ่ม View My Store ได้เลยครับ
ตัวอย่างหน้าร้าน
เมื่อคลิกที่สินค้าตัวอย่างที่มีข้อมูลแบบ Multiple Variation Product จะเจอแสดงรายละเอียดสินค้าที่จัดมาเต็มที่เลยทีเดียว
เมื่อกด Add To Cart จะมีสไลด์ตระกร้าสินค้าจากด้านข้างออกมาทันที ทำให้ Check Out ได้ง่ายขึ้น
ลองกดปุ่ม Checkout มีช่องให้กรอกไม่มากนักครับ เมื่อเทียบกับ WooCommerce
ให้กรอกข้อมูลต่างๆ ให้เรียบร้อยและลองกดปุ่ม Purchase เมื่อสั่งซื้อเรียบร้อยจะขึ้น Popup Thank you! เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ส่วนหลังบ้านเข้าที่เมนู SureCart > Products จะเป็นหน้ารายการสินค้าที่เราได้เพิ่มเข้าไป หากเราจะเพิ่มใหม่ให้กดปุ่ม Add New ขั้นตอนนี้จะคล้ายๆ ของ WooCommerce
ทดสอบการเพิ่มสินค้า ตั้งชื่อสินค้าตามต้องการ
จากนั้นกรอกรายละเอียดของสินค้า
ตรงช่องกรอกราคา เราสามารถกำหนดรูปแบบของราคาได้หลากหลาย
จะจ่ายแบบครั้งเดียวจบ หรือแบบผ่อนชำระ หรือแบบ Subscription สมัครสมาชิกก็ได้ ตรงนี้ทำมาได้เจ๋งมากครับ ไม่ต้องหาปลั๊กอินเสริมให้วุ่นวาย
กำหนดได้ด้วยว่าจะจ่ายเท่าไหรก็ได้ Pay what you want ซึ่งเหมาะสำหรับสินค้าแนวรับบริจาค
ตัวอย่างหน้ารายการ Order เมื่อมีคนสั่งซื้อสินค้า
สรุป
SureCart เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสร้างร้านค้าออนไลน์ ตั้งแต่การสร้างแบรนด์ไปจนถึงการจัดการการสมัครสมาชิกขั้นสูง สามารถควบคุมได้ตามที่ต้องการเพื่อสร้างประสบการณ์อีคอมเมิร์ซที่สนุกสนาน ไม่ว่าจะทดสอบธุรกรรมหรือการชำระเงินแบบกำหนดเอง แดชบอร์ดใช้งานง่าย SureCart เป็นโซลูชั่นแบบครบวงจรสำหรับการสร้างและเปิดตัวร้านค้าออนไลน์ที่พร้อมท้าชิง WooCommerce จริงๆ ครับ เพียงแต่รอเวลาให้มันปังกว่านี้เท่านั้นครับ
Related Posts
