User Role Editor ปลั๊กอินที่ช่วยแก้ไขบทบาทและตั้งค่าสิทธิ์ในการแก้ไขส่วนต่างๆ ของระบบ WordPress ได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ติ๊กเลือก หรือจะสร้างหน้าที่ใหม่ให้ User ก็ทำได้อย่างรวดเร็วทันใจ ไปติดตามกันได้เลย
ทำความรู้จักปลั๊กอิน User Role Editor
ปลั๊กอิน User Role Editor เป็นปลั๊กอินของ Vladimir Garagulya มีทั้งเวอร์ชั่นฟรีและเวอร์ชั่น Pro สำหรับเวอร์ชั่นฟรีมียอดติดตั้งมากกว่า 700,000 ครั้ง มียอดโหวตระดับ 4.5/5 ดาว ปลั๊กอินนี้ช่วยให้เราแก้ไขบทบาท (Role) และตั้งค่าความสามารถ (Capabilities) หรือสิทธิ์ของผู้ใช้ในบทบาทนั้นๆ ได้เพียงติ๊กเลือกช่องทำเครื่องหมายความสามารถที่ต้องการเพิ่มแล้วคลิกปุ่ม “อัปเดต” เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลงเป็นอันเสร็จ
เราสามารถเพิ่มบทบาทใหม่ (Role) และปรับแต่งความสามารถ (Capabilities) ตามความต้องการตั้งแต่เริ่มต้นเหมือนกับสำเนาของบทบาทอื่นๆ ที่มีอยู่ ซึ่งบทบาทใดที่เราสร้าง หากไม่มีผู้ใช้ที่ได้รับมอบหมายบทบาทดังกล่าว เราสามารถลบออกได้ และบทบาทที่กำหนดให้กับผู้ใช้ที่สร้างขึ้นใหม่ทุกรายตามค่าเริ่มต้นก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน
ความสามารถ (Capabilities) สามารถกำหนดให้กับผู้ใช้แต่ละราย และสามารถมอบหมายหลายบทบาทให้กับผู้ใช้ได้พร้อมกัน และการเพิ่มความสามารถใหม่และลบความสามารถที่ไม่จำเป็นอาจเหลืออยู่ในปลั๊กอินที่ถอนการติดตั้งไปแล้ว นอกจากนี้ปลั๊กอิน User Role Editor ยังสนับสนุนระบบแบบ Multi-site อีกด้วย
ติดตั้งและทดลองใช้
ไปที่เมนู Plugins > Add Plugins ค้นหาคำว่า “ User Role Editor” กด Install และ Activate ได้เลยครับ
หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว การเข้าถึงเมนูของปลั๊กอินให้ไปที่เมนู Users > User Role Editor
จะพบกับหน้าตาที่ให้ติ๊กเลือกความสามารถ (capabilities) ของแต่ละ User Role แบบละเอียดยิบ
สามารถเปลี่ยน Role อื่นๆ ได้จากเมนู Dropdown ด้านบน
ในตัวอย่างนี้เราอยู่ที่ Role ของ Subscriber สามารถตั้งค่าเกี่ยวกับปลั๊กอินในระบบ WordPress ได้ด้วยว่าจะให้สิทธิ์มากน้อยแค่ไหน จะให้ติดตั้ง, ลบ, Activate หรืออัพเดตปลั๊กอินในระบบก็สามารถทำได้ครับ
ค่า Default ของแต่ละ User Role จะแตกต่างกันไป เราสามารถเลือกดูทีละตำแหน่งก่อนได้
เราสามารถกำหนดให้แสดงผลตั้งแต่ 1-3 คอลัมน์ เพื่อให้ง่ายต่อการดู
การเพิ่ม User Roleใหม่
ให้ดูที่ด้านขวามือกดปุ่ม Add Role
ตั้งชื่อ Role NameID (กำหนดเป็นตัวอักษรตัวเล็กติดกัน) และ Display Role Name ตามต้องการ และเรายังสามารถ Copy ความสามารถของบทบาท User อื่นที่ตัวเลือก Make copy of มาเป็นตัวตั้งต้นให้ได้ด้วย
หลังเพิ่ม Role แล้ว ด้านบนตรง Dropdown จะแสดงบทบาทที่เราเพิ่งเพิ่มเข้าไป
เราสามารถกำหนดสิทธิ์โดยติ๊กเลือกความสามารถของ Role ตามที่เราต้องการ
การลบ User Role
นอกจากจะเพิ่ม Role ได้แล้ว เราก็ลบ Role ออกได้เช่นกัน ให้คลิกที่ปุ่ม Delete Role
ทำการเลือก Role บทบาทที่เราจะลบ และกดปุ่ม Delete Role ก่อนจะลบให้ตรวจสอบให้ดีก่อนนะครับ ว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อ User ใน Role นั้นๆ
ราคาและฟีเจอร์ของเวอร์ชั่น Pro
สำหรับเวอร์ชั่น Pro จะมีฟีเจอร์ที่เหนือกว่า เราจะดูว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
– สามารถบล็อกรายการเมนูผู้ดูแลระบบตามที่เลือก
– สามารถซ่อนรายการเมนู Frontend ที่เลือกสำหรับผู้เยี่ยมชมที่ไม่ได้เข้าสู่ระบบหรือผู้ใช้ที่เข้าสู่ระบบ
– บล็อกวิดเจ็ตที่เลือกภายใต้เมนู “Appearance”
– แสดงวิดเจ็ตที่ Frontend สำหรับ Role ที่เลือก
– สามารถบล็อก Metabox ที่เลือก (Dashboard, posts, pages, custom post types)
– สามารถ Import/Export User Role ไปยังเว็บไซต์ WordPress อื่นๆ ได้
– จัดการสิทธิ์บทบาทและผู้ใช้ผ่าน Network Admin สำหรับการกำหนดค่าหลายไซต์ คลิกเพียงครั้งเดียวการซิงโครไนซ์กับเครือข่ายทั้งหมด
– โมดูล “การเข้าถึงบทบาทอื่นๆ” (Other roles access) ช่วยให้กำหนดบทบาทอื่นๆ ที่ผู้ใช้ปัจจุบันอาจเห็นได้ที่ WordPress ในเมนู Dropdown เช่น กำหนดบทบาทให้กับผู้ใช้ในการแก้ไขโปรไฟล์ผู้ใช้ ฯลฯ
– จัดการการเข้าถึงของผู้ใช้ในการแก้ไข Posts/Pages/Custom post type โดยใช้ Posts, Pages, authors และ Taxonomies ID
– การจัดการการเข้าถึงผู้ใช้ปลั๊กอินสำหรับการ Activate/Deactivate ปลั๊กอิน
– การจัดการการเข้าถึงผู้ใช้ต่อแบบฟอร์มสำหรับปลั๊กอิน Gravity Forms
– สามารถใช้ Shortcode เพื่อแสดงเนื้อหากับผู้ใช้ที่มีบทบาทที่เลือกเท่านั้น
– สามารถจำกัดการแสดงหน้า Posts และ Pages สำหรับบทบาทที่เลือก
– กำหนดสิทธิ์ผู้ใช้ในการเข้าถึง Backend
ราคาแบบรายปี
1. Pro Personal ราคา 29 USD / 1 เว็บ อัพเดตได้ 1 ปี (ประมาณ 1,100 บาท)
2. Pro Business Lifetime ราคา 79 USD / 5 เว็บ อัพเดตได้ 1 ปี (ประมาณ 2,900 บาท)
3. Pro Business Lifetime ราคา 159 USD / ไม่จำกัดเว็บ อัพเดตได้ 1 ปี (ประมาณ 5,700 บาท)
ราคาแบบ Lifetime License อัพเดตตลอดชีพ
1. Pro Personal Lifetime ราคา 87 USD / 1 เว็บ อัพเดตได้ตลอดชีพ (ประมาณ 3,200 บาท)
2. Pro Business Lifetime ราคา 198 USD / 5 เว็บ อัพเดตได้ตลอดชีพ (ประมาณ 7,100 บาท)
3. Pro Business Lifetime ราคา 318 USD / ไม่จำกัดเว็บ อัพเดตได้ตลอดชีพ (ประมาณ 12,000 บาท)
สรุป
ใครที่ต้องการกำหนดสิทธิ์การใช้งานระบบ WordPress ตามระดับ User ควรหาปลั๊กอินประเภทนี้มาติดตั้ง เพื่อความปลอดภัยในการเข้าถึงส่วนอื่นๆ ที่ผู้ดูแลระบบไม่ต้องการให้ User ที่มี Role ที่ต่ำกว่าเข้าถึง ซึ่งปลั๊กอิน User Role Editor จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาตรงนี้ให้แก่เราได้ครับ
Related Posts
