Skip to content

Elementor Page Builder ชื่อดังได้เตรียมปรับปรุง Essential Plan ใหม่ ซึ่งเป็น Planสำหรับผู้ใช้ระดับเริ่มต้น โดยหั่นฟีเจอร์หลายตัวออก แน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อผู้ใช้รายย่อยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


ราคา Elementor รายปี

มาดูราคาปัจจุบันตามหน้าเว็บ Elementor กันก่อน ณ วันที่ 25 พ.ย. 66 จะมีขายอยู่ 4 Plan หลัก คือ

1. ESSENTIAL PLAN ใช้ได้ 1 เว็บไซต์ ราคา 59 USD/ปี (ประมาณ 2,xxx บาท)

2. ADVANCED PLAN ใช้ได้ 3 เว็บไซต์ ราคา 99 USD/ปี (ประมาณ 3,xxx บาท)

3. EXPERT PLAN ใช้ได้ 25 เว็บไซต์ ราคา 199 USD/ปี (ประมาณ 7,xxx บาท)

4. AGENCY PLAN ใช้ได้ 1,000 เว็บไซต์ ราคา 399 USD/ปี (ประมาณ 14,xxx บาท)

ซึ่งปกติแล้วแต่ละ Plan จะได้ฟีเจอร์การใช้งานระดับ Pro ครบๆ ใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ได้เหมือนกัน จะต่างกันตรงที่จำนวนเว็บที่สามารถใช้ได้ต่อปีเท่านั้น โดย Plan ที่แพงที่สุดคือระดับ AGENCY PLAN สามารถใช้ได้ 1,000 เว็บต่อปี (จะUnlimited website ไปเลยก็ไม่ให้นะ :-D)

การเปลี่ยนแปลงใน Essential Plan

Essential Plan เป็น Plan ตัวเริ่มต้น สำหรับคนงบประหยัด สามารถใช้งานได้ 1 เว็บ อัพเดตเวอร์ชั่นได้ 1 ปี แต่เดิมจะได้ฟีเจอร์การใช้งานครบถ้วน เช่นเดียวกับ Plan ระดับสูง จ่ายปีละ 2,000 บาท นิดๆ เหมาะสำหรับคนที่มีเว็บไม่มาก ทีนี้จู่ๆ เว็บ Elementor ก็ประกาศว่า ในวันที่ 4 ธันวาคม 2023 Planสมัครสมาชิก Elementor Pro แบบ Essential จะได้รับการปรับเปลี่ยน แต่การสมัครสมาชิก Planอื่นๆ ทั้งหมดจะไม่ได้รับผลกระทบ!



ทาง Elemetor แจ้งว่า “เราต้องการแจ้งให้คุณทราบเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนแผนการสมัครสมาชิก Elementor Pro Essential ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะส่งผลต่อการซื้อแผนนี้ใหม่ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2023”

“การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ช่วยให้เราเพิ่มการลงทุนในการพัฒนา Elementor แบบฟรีและปลั๊กอิน Elementor Proและคุณจะสามารถสร้างเว็บไซต์ที่ซับซ้อน เปลี่ยนแปลงได้ และเต็มไปด้วยเนื้อหามากยิ่งขึ้น”

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้หมายถึงอะไร

การอัปเดตรอบนี้ Elementor Pro เวอร์ชั่น Advanced, Expert, Agency และ Plan แบบพ่วง Hostingทั้งหมดจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ หมายความว่าการสมัครสมาชิกเหล่านี้จะยังคงเหมือนเดิม โดยสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ Elementor Pro ที่มีอยู่และที่กำลังจะอัพเดตในอนาคตได้ตามปกติครับ

Elementor ระบุเพิ่มเติมว่า “สมาชิกแบบ Elementor Pro Essential ที่มีอยู่จะยังสามารถใช้ ฟีเจอร์ปัจจุบันทั้งหมด โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม คุณยังสามารถต่ออายุการสมัครของคุณเมื่อหมดอายุ โดยที่ยังคงฟีเจอร์การใช้งานทั้งหมดที่มีอยู่เดิมใน Planของคุณได้ แต่ฟีเจอร์ใหม่บางอย่างที่เปิดตัวใหม่ใน Planที่สูงกว่าจะไม่สามารถใช้งานได้ใน Plan Essential ปัจจุบันของคุณ”

นั่นหมายถึงคนที่สมัครไว้ก่อนวันที่ 4 ธันวาคม ปี 2023 นี้ ยังใช้ฟีเจอร์เดิมที่มีได้ตามปกติ แต่ถ้ามีฟีเจอร์ใหม่บางอย่างใน Plan ระดับสูงกว่า คุณมีโอกาสอดได้ฟีเจอร์ใหม่นั่นเอง และเท่ากับว่าคนที่สมัคร Elementor Pro Essential ใหม่หลังวันที่ 4 ธันวาคมนี้ จะได้รับผลกระทบไปเต็มๆ ครับ!!

ทำไมต้องเปลี่ยนแปลง

Elementor เริ่มต้นเมื่อ 7 ปีที่แล้ว โดยเริ่มต้นจากเครื่องมือสร้างเพจแบบ Drag and Dropพร้อม Widgetsต่างๆ ที่ช่วยให้คุณสามารถเพิ่มองค์ประกอบต่างๆ ลงในเพจของคุณได้ หลังจากนั้นไม่นาน Elementor ได้เปิดตัวความสามารถในการออกแบบขั้นสูงเพิ่มเติม พร้อมด้วย embedded widgets เช่น เพลย์ลิสต์วิดีโอ และFunctional widgetsเช่น Widgetsการตลาด, Widgetsแบบไดนามิก และฟีเจอร์ WooCommerce ท้ายที่สุดก็กลายเป็น Page Builder แบบเต็มรูปแบบ


Timeline การพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ใน Elementor Page Builder ตั้งแต่ปี 2016-2023

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Elementor Pro ทุก Plan จะได้รับการอัพเดตเหมือนกันหมด ไม่มีความต่างกันเลย ไม่ได้มีอะไรทางคุณค่าที่ทำให้รู้สึกว่าแตกต่างกัน ทาง Elementor จึงวางแผนงานในผลิตภัณฑ์ที่กำลังจะมาถึง และทบทวนวิธีที่สามารถนำมาใช้ไม่เพียงแต่คุณสมบัติเพิ่มเติมที่คุณร้องขอ แต่ยังรวมไปถึงคุณสมบัติที่เป็นนวัตกรรมใหม่ด้วย

การปรับเปลี่ยนการสมัครสมาชิกแบบ Essential Pro ทางทีม Elementor เผยว่าจะมุ่งเน้นแผนงานได้ดีขึ้นและลงทุนมากขึ้นเพื่อขยายฟีเจอร์ใหม่ๆ การทำเช่นนี้ทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น มีความสามารถมากขึ้น และมีฟีเจอร์มากขึ้น ที่สำคัญกว่านั้นคือ สามารถแนะนำฟีเจอร์ที่คุณต้องการสำหรับเว็บไซต์ของคุณได้ในทุกระดับของปลั๊กอิน Elementor ทั้งแบบเวอร์ชั่นฟรี และ Pro

Elementor Pro Essential แบบใหม่

การสมัครสมาชิก Elementor Pro Essential แบบใหม่ สามารถสร้างเว็บไซต์พื้นฐานได้ครับ คุณจะสามารถเข้าถึงWidgets Pro ได้อยู่ แต่โดนหั่นเหลือ 50 รายการ ถ้าเทียบกับ Plan ที่สูงกว่าจะได้ Widgets ครบๆ 82 widgets ด้วยกัน แต่ยังดีที่ Theme Builder และ Global Widgets ยังคงใช้ได้อยู่เหมือนเดิม เพื่อให้คุณสามารถแก้ไขส่วนหัว ส่วนท้าย และส่วนต่างๆ ของธีม ได้



นอกจาก Widgets จะโดนหั่นออกแล้ว ในส่วนของ Advanced Customization อย่างCustom Code, Custom CSS และ Global CSS ก็ถูกเอาออกเช่นกัน

มาดูกันต่อที่ Marketing Features สามารถสร้าง Form พื้นฐานได้ แต่โดนตัด Form Submissions และ Form Integrations ออกไป เช่นเดียวกับ Popups และCustom Attributes

ในส่วนต่อมาน่าจะได้รับผลกระทบเต็มๆ สำหรับคนที่ต้องใช้งานในส่วนของ Dynamic Content เพราะพี่แกดันตัดในส่วนของตัวเชื่อมปลั๊กอินอย่าง ACF และ PODs ออกซะงั้น! แถมตัวสร้าง Woocommerce + ตัวเชื่อมPaypal และ Stripe ก็เอาออกไป

ส่วนสุดท้ายที่เอาออกคือ Notes และ Role Manager



ความคิดเห็นของนักพัฒนาและคนอื่นๆ

Scott Kingsley Clark หัวหน้าทีมพัฒนาปลั๊กอิน Pods Framework ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้ ในเรื่องที่ว่า Pods จะสนับสนุนผู้ใช้ Elementor อย่างไรในอนาคต

“Elementor Pro กำลังลบสิ่งต่างๆ อย่าง ACF และPods integration ออกจาก Plan ที่ราคาถูกสุดอย่าง “Essential” ออกในเดือนธันวาคม สมาชิกปัจจุบันจะยังใช้งานฟังก์ชั่นนี้ได้ แต่ใครก็ตามที่ซื้อ License ใหม่หลังจากวันที่ 4 ธันวาคม จะไม่มี License ฟีเจอร์เหล่านั้นแล้ว”

“มันยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่นัก เนื่องจากผมไม่ได้ใช้ฟีเจอร์อื่นๆ ไม่ว่าพวกเขาจะลบสิ่งต่างๆ ออกไปมากมาย หรือบางอย่าง คือฟีเจอร์ใหม่ที่จะเปิดตัวในเดือนธันวาคมจะมีใน Plan อื่นๆ แทน”

ขณะที่ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั่วไปที่ต่อต้านในเรื่องนี้ “อย่าไปโทษ Elementor เพราะ License ของพวกเขาเปลี่ยนไป ก็แค่โทษตัวคุณเองนั่นแหละที่ดันไปใช้ Elementor”


สรุป

แม้จะว่ามีการเปลี่ยนแปลง License ใน Plan ที่ถูกที่สุด ซึ่งหากคุณพบว่าไม่สามารถใช้งานต่อไปได้ Elementor ยังคงมีตัวเลือกใน Plan อื่นๆ เพียงแต่ว่าคุณต้องจ่ายมากขึ้นนั่นเอง ลองตัดสินใจดูนะครับ

อ้างอิง : Elementor

Back To Top
Search